ลูกปัดมีตา

หากย้อนอดีตกลับไปลูกปัดมีตา เริ่มมีปรากฏครั้งแรกที่อียิปต์เมื่อประมาณ 3,300 ปีมาแล้ว และต่อมามีปรากฏในอารยะธรรมอื่นๆและยังคงทำสืบเนื่องต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้  คนโบราณเชื่อว่าในโลกนี้มีดวงตาอันชั่วร้ายของปีศาจจ้องมองอยู่ มนุษย์จึงต้องทำลูกปัดมีตาขึ้นมาและเชื่อว่าเป็นดวงตาของเทพเจ้า เป็นดวงตาที่มองเห็นทุกทิศทุกทาง และดวงตานี้จะคอยปกป้องมนุษย์จากความชั่วร้าย (นิตยสารสารคดี มกราคม 2546)

         ลูกปัดดีซีไอหรือหินดีซีไอกับความเชื่อ

บางตำนานเล่าว่าหินดีซีไอ คือเปลือกของสะเก็ดดาวที่หล่นมาจากท้องฟ้า และต่อมาลามะได้พบเข้าจึงนำไปประดับพระพุทธรูป เมื่อชาวบ้านที่เจ็บป่วย มาสักการะพระพุทธรูปบางคนนำเอาหินมาถูกับตามตัวปรากฏว่าหายจากอาการป่วย จึงมีความเชื่อกันว่าหินดีซีไอมีความศักดิ์สิทธิ์ จึงมีการนำเอาหินตามเทือกเขาต่างๆมาทำเป็นรูปแบบต่างๆที่เราเห็นกัน (หินทิเบตโดย ราช รามัญ ) ชาวทิเบตเชื่อว่า วงซ้อนๆกันในเนื้อหินอาเกตเป็นสัญลักษณ์ของตาเทพเจ้า และเชื่อกันว่าหากเราสวมใส่ไว้ติดตัวจะช่วยคุ้มครองจากภยันตรายต่างๆได้ ต่อมามีการตกแต่งลวดลายบนเนื้อหิน ทำให้หินชนิดนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก.ในอดีตผู้ที่ใส่หินดีซีไอนั้นจะต้องเป็นชนชั้นนักบวชหรือกษัตริย์เท่านั้น ฉะนั้นดีซีไอจึงถือเป็นสุดยอดของลูกปัดหิน และเป็นที่นิยมของนักสะสมลูกปัดเรื่อยมาจวบจนทุกวันนี้(นิตยสารสารคดี มกราคม 2546)